ฟุตบอล

รอย คีน ตำนานกัปตันปีศาจร้าย ผู้เกลียดความพ่ายแพ้อย่างที่สุด

ถ้าจะพูดถึงความสำเร็จของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแล้วละก็ หนึ่งในผู้เล่นคีย์แมนของทีมที่จะนึกถึง จะต้องมีชื่อของเขาอยู่อย่างขาดไม่ได้ เพราะครั้งหนึ่งเขาคือกัปตันทีม เขาคือหัวใจของผู้เล่นทุกคนในทีม เขาคือผู้เล่นในดวงใจของแฟนผีทุกหมู่เหล่า เรียกได้ว่าในยุคของเขา เขาคือเจ้าลัทธิของเด็กผีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่ารอย คีน จะไม่ใช่นักเตะประเภทที่ความสามารถเฉพาะตัวสูง เทคนิคแพรวพราว ไม่ได้มีความเร็วและพลิ้วไหว แต่เขาทดแทนสิ่งเหล่านั้น ด้วยการเล่นแน่นอน หนักหน่วง ขยัน และไม่ยอมใครหน้าไหนทั้งนั้น และเพียงแค่นั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้เขา เข้าไปอยู่ในใจของแฟนบอลได้อย่างไม่ยากเย็น

รอย คีนย้ายจากน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ในปี 1993 ตอนที่ฟอเรสต์ตกชั้น ด้วยค่าตัว 3.75 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในช่วงเวลานั้นเลย นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็สถาปนาตัวเองเป็นผู้เล่นที่ทัพปีศาจแดงขาดไม่ได้ทันที ก่อนที่เขาจะได้รับสืบทอดปลอกแขนกัปตันต่อจากเอริค คันโตน่าในปี 1996-1997 หลังการประกาศเลิกเล่นของคิงก็องโต หลังจากนั้นเขาคือศูนย์กลางของทีม เขาเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งเสมอในสนาม และเป็นตัวกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมชั้นเยี่ยมอย่างที่หาใครเลียนแบบยาก เหล่าเด็กหนุ่มในทีม ยอมสู้ถวายหัว ยอมพุ่งเอาหัวไปบวกกับแข้งของคู่ต่อสู้ซะยังดีกว่าโดนคีนอัดเอาในห้องแต่งตัว ทีมปีศาจแดงในยุคนั้นจึงเต็มไปด้วยพลัง ความกระหาย วิ่งไม่มีหมดตราบที่เสียงนกหวีดยังไม่ดัง และภาพที่เห็นจนชินตา จนเรียกได้ว่าคือเอกลักษณ์ของเขา คือการอัดใส่คู่ต่อสู้แบบไม่เกรงกลัว ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู่จะเป็นใคร เล็กหรือใหญ่กว่าแค่ไหน ถ้าคุณเห็นกัปตันทีมอื่น ๆ ห้ามปรามพวกเด็กหนุ่มเลือดร้อนในทีม แต่อย่าคาดหวังว่าจะเห็นสิ่งนั้นจากเขา เพราะแทนที่จะห้าม เขาอาจจะเป็นตัวเปิดเองซะมากกว่า แต่ก็นั่นแหละมันคือสิ่งที่เป็นกุญแจไปสู่ความยิ่งใหญ่ ของทีมในยุคนั้นเลยก็ว่าได้

ตลอดระยะเวลา 12 ปี ในโรงละครแห่งความฝัน รอย คีนลงเล่นรับใช้สโมสรไปถึง 480 นัดกับ 51 ประตู เขาพาทีมประสบความสำเร็จมากมายตลอดช่วงเวลานั้น แชมป์ลีก 7 สมัย เอฟเอ คัพ 4 สมัย ยูฟ่าแชมเปี้ยน ลีกกับแชมป์สโมสรโลกอีกอย่างละครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดลงเล่นในเกมนัดชิงที่คัมป์ นู เพราะไปตัดฟาล์วจนโดนใบเหลืองในรอบรอง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าถ้าโดนเหลืองเขาจะไม่สามารถลงเล่นได้ แต่สำหรับเขาแล้วขอเพียงทีมได้ไปต่อเขาก็พร้อมที่จะเสียสละ และลูกทีมของเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โกงความตายชนะบาเยิร์น มิวนิคในนาทีสุดท้ายได้สำเร็จ

ถึงแม้ว่าสุดท้ายเขาจะปิดตำนานการค้าแข้งที่ในโรงละครแห่งความฝัน ได้ไม่สวยนัก เพราะไปมีปากเสียงกับนายใหญ่จนต้องย้ายไปอยู่กับเซลติกที่สก็อตแลนด์ก่อนแขวนสตั๊ดหนึ่งปี แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้แฟนบอลปีศาจแดงนั้น มันคือความยิ่งใหญ่ซะจนยากที่จะหาใครมาลบล้างมันได้ และไม่ว่าเวลาจะผ่านมาแล้วถึง 15 ปีแต่ในใจแฟนปีศาจแดงแล้ว ภาพของเขาก็ยังถูกจดจำในฐานะ กัปตันทีมจอมโหดผู้ไม่ยอมแพ้ใครหน้าไหนอยู่เช่นเดิม

Tagged , ,