ช่วงห้าปีที่ผ่านมาในวงการฟุตบอลคงไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนเนื้อหอมมากไปกว่าเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่จากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไม่ว่าสโมสรใหญ่สโมสรใดจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมจะมีชื่อของกุนซือชาวอาร์เจนไตน์เข้าไปพัวพันเสมอทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บาร์เซโลน่า เรอัล มาดริดและยูเวนตุส ฤดูกาลที่ผ่านมาแม้จะมีข้อเสนอจากทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปส่งให้พอชพิจารณาอยู่บ่อยครั้งแต่เขาก็ปฏิเสธทั้งหมดเพราะยังคงภักดีกับสโมสรไก่เดือยทองไม่เสื่อมคลาย จนกระทั่งไม่นานมานี้ที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นว่าความคิดของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว “ผมอยากจะอยู่กับสเปอร์ไปนาน ๆ และมอบสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สโมสรเหมือนที่อาร์แซน เวนเกอร์สร้างขึ้นที่อาร์เซน่อล” นี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ของโปเช็ตติโน่เมื่อฤดูกาลที่แล้วระหว่างที่เขามีข่าวพัวพันกับเรอัล มาดริด ทว่าเพียงไม่กี่เดือนต่อมาในคำให้สัมภาษณ์ช่วงปรีซีซั่นผู้จัดการทีมมากฝีมือผู้นี้กลับได้แย้มพรายว่าเวลาของเขากับท็อตแน่มอาจจะเหลือไม่มากแล้ว เพราะการอำลาสโมสรเป็นหนึ่งในเรื่องที่อยู่ในหัวของเขามาตลอด “ถ้าทีมได้แชมป์ UCL ในฤดูกาลที่แล้วผมอาจจะอำลาสโมสรก็ได้” หลังจากคำสัมภาษณ์นี้สื่อต่างฮือฮาว่าเกิดอะไรขึ้นกับทัศนคติที่เปลี่ยนไปของผู้จัดการทีมผู้นี้พร้อมทั้งตีข่าวไปต่าง ๆ นานา ท่ามกลางความคลุมเครือเหล่านั้นพอชก็ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งเกี่ยวกับการซื้อขายตัวนักเตะในฤดูกาลนี้ของทีมอย่างหัวเสีย “ผมไม่ใช่ผู้จัดการทีมผมเป็นแค่โค้ชที่คุมทีมลงซ้อม ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการซื้อขายของทีมเลย” การสัมภาษณ์ตัดพ้อครั้งล่าสุดนี้สื่อจึงได้ทราบว่าเรื่องที่ทำให้พอชหงุดหงิดใจคือนโยบายการเสริมทัพของทีมนั่นเอง เพราะหลังจากได้ตัวต็องกี เอ็นดอมเบเล่การซื้อขายนักเตะของสเปอร์ก็เงียบกริบ ทั้งอนาคตของคริสเตียน อีริคเซ่นที่ยังคาราคาซังด้วย สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหากับการทำงานของพอชโดยตรง และการกระทบกระเทียบว่าอำนาจของเขาเพียงแค่เฮดโค้ชไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่มีอำนาจเต็มในการจัดการทีมนั้นก็สอดคล้องกับหลาย ๆ ครั้งที่เขาเคยโอดครวญว่าผู้จัดการทีมอย่างเป็ป กวาดิโอล่ากับเจอร์เก้น คล็อปป์นั้นน่าอิจฉาเพราะมีอำนาจเต็มในการซื้อขายตัวผู้เล่น ต่างจากตัวเขากับผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ลีกอีกหลาย ๆ คนที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสโมสรหากต้องการซื้อ ขาย หรือต่อสัญญานักเตะคนใด สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดกับสเปอร์เพียงสโมสรเดียว ทุกวันนี้เรอัล มาดริด บาร์เซโลน่า โรม่า ต่างก็ถูกกระบวนการเหล่านี้แทรกแซงทั้งสิ้นและที่เห็นได้ชัดกว่าสโมสรใดก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เอ็ด วู้ดเวิร์ดจัดแจงทุกอย่างจนผู้จัดการทีมหลายคนทำงานลำบาก ทั้งโจเซ่ มูริญโญ่และหลุยส์ ฟาน กัลต่างก็เคยออกมาพูดว่าพวกเขาไม่ได้รับอำนาจเต็มในการทำงาน ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ครั้งหนึ่งซีเนอดีน ซีดานก็เคยโบกมือลาเรอัล มาดริดเพราะประสบกับปัญหาเดียวกันนี้ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบวการไม่ได้นักเตะที่จำเป็นต่อแผนการเล่น…
