ท่ามกลางวิกฤตต่าง ๆ ที่เข้ามารุมเร้าในถิ่นคัมป์ นู ของบาร์เซโลน่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด หรือผลงานในสนามที่อยู่ในช่วงที่ย่ำแย่อย่างหนักจนนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงตัวของผู้จัดการที่จากกีเก้ เซเตียน มาเป็นโรนัลด์ คูมันในที่สุด และการก้าวเข้ามาของคูมันนั้นมันก็มีผลตามมามากมายทั้งในด้านดีและไม่ดี ด้านที่ไม่ดีก็อย่างเช่นการที่ต้องมีผู้เล่นซูเปอร์สตาร์บางคนที่ต้องย้ายออกไป แต่ในส่วนที่ดีนั้นก็คือการที่ผู้เล่นดาวรุ่งจากศูนย์ฝึกลามาเซียอันโด่งดังของพวกเขาอย่าง อันซู ฟาติ ได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวนั่นเอง
ชื่อของกองหน้าดาวรุ่งซึ่งปัจจุบันมีอายุยังไม่เต็ม 18 ปีอย่างอันซู ฟาตินั้นแฟนฟุตบอลโดยเฉพาะแฟนบาร์ซ่านั้นคงจะคุ้นชื่อของเขามาแล้วพอสมควร เพราะเมื่อฤดูกาลที่แล้วเขาก็ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่มากพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังนับเป็นนักเตะสำรองตามแบบฉบับของดาวรุ่งทั่วไป แต่เขาก็ลงสนามทั้งตัวจริงและสำรองรวมแล้วถึง 28 เกมด้วยกันแถมยังสามารถตะบันไปได้ถึง 10 ประตูอีกด้วย
แต่ในฤดูกาลนี้ฟาติก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมอย่างเต็มตัวพร้อมกับการได้รับสัญญาใหม่อีกด้วย และเมื่อบนรายชื่อ 11 ตัวจริงไม่มีชื่อของหลุยส์ ซัวเรซขวางอยู่ก็ทำให้เขามีโอกาสลงสนามมากยิ่งขึ้น โดยมีรุ่นพี่อย่างลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมที่คอยสนับสนุนเกมรุกของเขา พร้อมกับคอยประคองทีมชุดสร้างใหม่ของโรนัลด์ คูมันไปด้วย ซึ่งผลงานที่ออกมาในสนามของเขาก็ไม่ทำให้ตัวกุนซือและแฟนบอลผิดหวังแต่อย่างใด โดยในฤดูกาลใหม่ที่พึ่งเริ่มต้นขึ้นมาได้เพียง 6 นัดจากสองรายการคือลาลีกา สเปน 4 นัด ฟาติก็ลงเล่นครบทุกเกมและยิงไป 3 ประตูกับจ่ายให้เพื่อนอีก 1 ลูกอีกด้วย ส่วนในถ้วยใหญ่ของยุโรปที่พึ่งเริ่มเตะนัดแรกเขาก็ยังทำผลงานยิง 1 จ่าย 1 พาทีมถล่มคู่แข่งอย่างขาดลอยอีกด้วย
ฟอร์มการเล่นและฝีเท้าของอันซู ฟาตินั้นนอกจากจะถูกยืนยันด้วยตัวเลขการทำประตูแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นการยืนยันความเก่งกาจของเด็กคนนี้ก็คือ การที่มีทีมใหญ่หลายทีมต่างให้ความสนใจในตัวเขา ชนิดที่เรียกได้ว่าจ้องตาเป็นมันเลยทีเดียวซึ่งทางบาร์ซ่าเองก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาจะไม่ยอมขายไม่ว่าจะที่ราคาเท่าไหร่ก็ตาม และสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากก็คือการก้าวขึ้นมาของเขามันอยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งของตำนานคนเก่าอย่างเมสซี่อีกด้วย ไม่แน่ว่าบางทีเราอาจจะได้เห็นการส่งต่อตำนานจากกัปตันเมสซี่ มาเป็นอันซู ฟาติก็เป็นได้ และด้วยความรักที่เขามีต่อบาร์เซโลน่า แถมยังมีฝีเท้าที่จัดจ้านแถมยังมีเวลาในการพัฒนาอีกยาวนาน การก้าวขึ้นไปเป็นตำนานแทนเมสซี่นั้นไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงอย่างแน่นอน