ถ้าหากได้ดูการเล่นของซีเนดีน ซีดาน คุณจะเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่เขาทำในสนาม และลีลาที่พลิ้วไหวสง่างามของเขา มันเต็มไปด้วยพลังการทำลายเกมรับของฝั่งตรงข้าม
ถ้าหากไปถามแฟนบอลซักคนหนึ่งในโลกใบนี้ ที่ได้สัมผัสกับเกมฟุตบอลในช่วงปี 2000 ว่าเขาคิดว่ากองกลางคนไหนที่เขาคิดว่าเก่งที่สุดในโลก เชื่อว่าแปดสิบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่าง จะพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคนนั้นก็คือ “ซีเนดีน ซีดาน” จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศสอย่างแน่นอน นั่นเพราะแฟนบอลกลุ่มนั้นต่างก็เคยได้ชมฝีเท้าที่พลิ้วไหว สง่างามราวกับชมการร่ายรำ แต่มันกับเต็มไปด้วยประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนเกม และการเอาชนะเกมรับฝั่งตรงข้ามซึ่งเขาทำมันครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านผู้เล่นที่ถูกส่งมาประกบเขาคนแล้วคนเล่า อย่างไม่รู้จักเบื่อนั่นจึงทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็น “กองกลางที่ดีที่สุด” เท่าที่โลกฟุตบอลเคยมีมาเลยทีเดียว
สิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำซีเนดีน ซีดานในฐานะตำนาน
ซีเนดีน ซีดาน เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ครบเครื่องที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทักษะของเขาเวลาเล่นกับลูกบอลนั้นมันช่างมหัศจรรย์อย่างมาก บอลคอนโทรลของเขาก็น่าเหลือเชื่อ มันเหมือนกับว่าลูกฟุตบอลกับเขาเข้าใจกันและกันราวกับเพื่อนซี้ มีหลายครั้งที่แฟนบอลต้องอ้าปากค้างกับเพียงแค่จังหวะเอาบอลลงพื้นของเขา และสำหรับหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงของเขาอย่างการสร้างสรรค์เกมรุกนั้น เขาก็ทำมันออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอลสั้นหรือยาว การล่อหลอกให้เกมรับเสียทรงก่อนที่จะจ่ายบอลสวย ๆ ให้กับเพื่อนร่วมทีม และนอกจากในด้านการจ่ายบอลแล้ว การยิงของเขาก็อยู่ในระดับที่กองหน้าหลาย ๆ คนอาย เพราะเขายิงได้ทั้งซ้ายและขวา ในกรอบและนอกกรอบ ลูกนิ่งอย่างฟรีคิกหรือลูกที่ลอยอยู่บนอากาศก็ไม่เกี่ยงทั้งเท้าทั้งหัว บอกได้คำเดียวว่า “เพอร์เฟ็กต์” ตั้งแต่ปลายเท้ายันปลายผมเลยก็ว่าได้
ถ้าใครที่ไม่เคยเห็นการเล่นของเขาคงจะหาว่าพูดเกินจริงก็เป็นได้ แต่สิ่งเหล่านี้มันล้วนแล้วแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น และทุกสิ่งที่เขาทำเขาทำมันโดยที่เขาไม่ได้มีความรวดเร็วเท่าเมสซี่ หรือมีร่างกายมหัศจรรย์เหมือนโรนัลโด้ แต่ที่เขาทำแบบนั้นได้ มันมาจากทักษะที่ยอดเยี่ยมในการคอนโทรลบอล บวกกับความฉลาดในการเล่นกับจุดอับของคู่ต่อสู้ นั่นทำให้แทบจะไม่มีใครหยุดเขาได้ในสนาม
เส้นทางสู่ตำนานของซีเนดีน ซีดาน
ด้วยความที่เป็นสุดยอดผู้เล่นของโลก นั่นทำให้ซีเนดีน ซีดาน สามารถพาทีมที่เขาเล่นก้าวไปคว้าความสำเร็จมากมายทั้งในระดับทีมชาติและระดับสโมสร ซึ่งรางวัลเหล่านี้ยังไม่นับรวมรางวัลส่วนตัวของตัวเขาเองอีกยาวเหยียด ซึ่งรางวัลส่วนตัวที่สำคัญ ๆ ก็จะเป็นบัลลงดอร์ เมื่อปี 1998 ส่วนรางวัลอื่น ๆ นั้นยากที่จะสาธยายได้หมด
1.เกียรติยศระดับสโมสร
ตลอดเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของซีเนดีน ซีดาน เขาเล่นให้กับสโมสรทั้งหมด 4 แห่ง โดยเริ่มต้นจากศูนย์ฝึกเยาวชนของก็องส์ทีมในลีกบ้านเกิด ก่อนที่จะเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของกองส์ได้ตอนอายุเพียง 16 ปี และได้เล่นให้ก็องส์เพียงแค่ 4 ฤดูกาล ก่อนจะถูกทีมใหญ่กว่าอย่างบอร์กโดซ์ดึงไปร่วมทีม
ที่บอร์กโดซ์เขากลายมาเป็นตัวหลักในทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว ตลอดระยะเวลาสี่ฤดูการที่อยู่กับสโมสรเขาลงสนามไปมากถึง 179 นัด ด้วยผลงานการทำประตูไป 39 เม็ด พาสโมสรได้แชมป์อินเตอร์โตโต้ คัพมาครองได้หนึ่งสมัย และฟอร์มของเขาก็ไปเตะตาทีมใหญ่ในยุโรปเข้าอย่างจัง และการย้ายออกจากลีกน้ำหอมของเขาในครั้งนั้น ก็คือการเปิดประตูสู่ความสำเร็จในโลกฟุตบอลในเวลาต่อมา
สถานีแรกนอกแดนน้ำหอมของเขานั้นคือ สถานีตูรินกับยูเวนตุสทีมยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช่ ซีรี่ย์อา ซึ่ง ณ เวลานั้นฝีเท้าของเขาเริ่มจะฉายแววความโดดเด่นขึ้นมาจนเป็นที่จับตาของคนทั้งโลกแล้ว และสโมสรใหญ่อย่างยูเวนตุสก็เป็นแสงสปอตไลท์ที่ฉายให้ฝีเท้าของเขาประจักษ์แก่คนทั้งโลกได้อย่างดี ว่ากันว่ายุคนั้นฟอร์มของเขาพร้อมที่จะเลี้ยงผ่านทุกคนบนโลกในนี้เลยทีเดียว ซึ่งเขาใช้เวลาอยู่ที่ตูริน 5 ฤดูกาล ลงสนาม 209 นัด ยิง 31 ประตู พาทีมคว้าสคูเดตโต 2 สมัย แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย และอินเตอร์โตโต้คัพ อีก 1 สมัย
แน่นอนว่าฝีเท้าของเขาช่างเจิดจรัสถูกที่ถูกเวลาเสียเหลือเกิน กับยุคการสร้างกาลากติกอสของฟลอเรนติโน่ เปเรซที่เรอัล มาดริด ที่พร้อมจะทุ่มเงินดึงสุดยอดผู้เล่นของโลกมารวมกัน แล้วมีหรือที่กองกลางที่ดีที่สุดอย่างเขาจะหลุดจากโผ โดยทางราชันยอมทุ่มเงิน 77.5 ล้านปอนด์สร้างสถิติโลกในสมัยนั้นดึงเขามาร่วมทีมกันเลย และการย้ายทีมครั้งนี้ของเขาก็ทำให้เขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพ พร้อมกับสร้างยุคทองให้กับเรอัล มาดริดไปพร้อมกันโดยมีเขาเป็นแกนกลางห้อมล้อมด้วยผู้เล่นระดับโลกมากมาย และเขาพาทีมคว้าแชมป์ลีก ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก และแชมป์สโมสรโลกมาได้อย่างละ 1 สมัย ก่อนที่จะประกาศแขวนสตั๊ดที่เบอร์นาเบวนี่เอง
2.เกียรติยศระดับทีมชาติ
สำหรับทีมชาติฝรั่งเศสนั้นเขาเริ่มต้นลงรับใช้ชาติตั้งแต่อายุได้เพียง 22 ปี โดยรวมทั้งหมดแล้วเขาลงสนามให้กับทัพตราไก่ไป 108 เกม ยิงได้ 31 ประตู โดยความสำเร็จสูงสุดในระดับชาติของเขา เกิดขึ้นในปี 1998 ที่ฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก และเขาก็พาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกสมัยแรกในประวัติศาสตร์มาครองได้สำเร็จ โดยเขาโขก 2 ประตูในนัดชิงกับบราซิลให้ทัพตราไก่คว้าแชมป์ไปได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากนั้นสองปีเขาและเพื่อนร่วมทีมชาติก็ยังร้อนแรงต่อเนื่อง สามารถคว้าแชมป์ยูโร 2000 มาครองได้อีกหนึ่งรายการ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้โลดแล่นอยู่บนผืนหญ้าแล้ว แต่ความทรงจำของบรรดาแฟนบอลที่เคยได้เห็นการเล่นของเขายังคงเด่นชัด และมรดกทางลูกหนังทิ้งไว้ให้นักเตะรุ่นต่อมาได้ใช้อีก อย่างเทคนิคที่เรียกว่า “ซิดาน เทิร์น” ทุกครั้งที่เห็นนักฟุตบอลรุ่นหลังใช้เทคนิคนี้ มันยิ่งตอกย้ำว่าเขายิ่งใหญ่เพียงใด และทำให้แฟนบอลคิดถึงเขาเสมอ
คงจะเป็นเรื่องยากมากที่จะหานักเตะซักคนที่เล่นได้อย่างซีเนดีน ซีดาน แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับนักเตะรุ่นใหม่ ที่มีเขาเป็นต้นแบบให้ศึกษาเรียนรู้ ทั้งทักษะทางฟุตบอลและเทคนิคที่แพรวพราว รวมไปถึงไหวพริบในการเอาชนะคู่ต่อสู้ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการพัฒนาฝีเท้าของนักฟุตบอลรุ่นหลังมาก ๆ เพราะอย่างไรครั้งหนึ่งชายคนนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในโลก และวันนี้ถึงเขาเลิกเล่นไปแล้วก็ยังได้ชื่อว่า “ตำนานกองกลางที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา”