ฟุตบอล

เฟร็ด เมดอินบราซิล ไม่ใช่เซินเจิ้น

เขาเกิดและเติบโตมาบนแผ่นดิน ที่ได้รับการยกย่องว่าคือดินแดนแห่งฟุตบอล อย่างประเทศบราซิล ผ่านการสัมผัสแชมป์ในลีกในประเทศ กับทีมในบ้านเกิดอย่างอินเตอร์นาซิยงนาล ตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนย้ายมาเล่นในยุโรป ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค และเขาก็สามารถสอบผ่านมาตรฐานฟุตบอลกับสโมสรใหม่ของเขาได้อย่างง่ายดาย ยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ ลงเล่นไปถึง 155 นัด พาทีมกวาดแชมป์ลีกมาถึง 3 ใบ ฟุตบอลถ้วยในประเทศอีก 3 ใบ และยูเครนซูเปอร์คัพ อีก 4 ใบ และสิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของการย้ายมาเล่นในลีกใหญ่อย่างพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เป็นที่มาของการย้ายสู่ทีมใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมันเป็นที่มาของค่าตัวมหาศาลถึง 52 ล้านปอนด์ของเจ้าตัว

เฟร็ด ย้ายจากยูเครนเข้ามาอยู่กับทัพผีแดงในปี 2018 ในยุคที่อยู่ในการทำทีมของโชเช่ มูรินโญ่ ซึ่งภายหลังมูรินโญ่ก็ได้ออกมาเผยว่าเขาไม่ได้ต้องการดึงเฟร็ดมาร่วมทีม แต่เป็นทางเอ็ด วูดเวิร์ดจัดมาให้เองต่างหาก นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมฟอร์มของเขาจึงออกมาแย่แบบนั้นในช่วงที่ย้ายมาแรก ๆ ด้วยค่าตัวระดับ 52 ล้านปอนด์ แฟน ๆ ต่างคาดหวังในตัวเขาอย่างมากที่จะเข้ามายกระดับมาตรฐานให้กับแผงกองกลางของทีม แต่มันกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะเฟร็ดที่กำลังต้องการเวลาในการปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ ลีกใหม่ซึ่งมีมาตรฐานการเล่นสูงกว่าที่ที่เขาจากมา ไม่สามารถตอบโจทย์ที่แฟนบอลต้องการได้ทันที ทำให้ช่วงนั้นเขาโชว์ฟอร์มไม่ออกเลย เลี้ยงก็ไม่ได้ ตัดบอลไม่ได้ จ่ายบอลก็ไม่ได้ ทำให้เกิดกระแสในด้านลบต่อตัวเขามาก ว่าแมนยูซื้อกองกลางคนนี้ด้วยค่าตัวที่แพงเกินจริง หรือเขาไม่เหมาะที่จะซื้อมาร่วมทีมเลยด้วยซ้ำ ถึงกับมีการดูถูกว่าเขาไม่ใช่กองกลางบราซิลของแท้ เป็นบราซิลที่ผลิตในเซินเจิ้นว่าไปนู่นเลย และฟอร์มโดยรวมของทีมก็ย่ำแย่ จนเจ้านายอย่างโชเซ่ มูรินโญ่ ต้องโดนปลดออกจากตำแหน่ง

เมื่อเปลี่ยนกุนซือมาเป็นโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ถึงแม้ว่าฟอร์มของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ แต่มันค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ เป็นลำดับ เมื่อเขาได้รับโอกาสการลงสนามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อได้จับคู่กับคู่หูแดนกลางอย่าง สก็อตต์ แม็คทอมมิเนย์ พวกเขาช่วยสอดประสานหน้าที่กันได้อย่างลงตัว และช่วยยกระดับความมั่นใจในตัวเขาขึ้นมาได้อย่างมาก ทำให้เฟร็ดสามารถกลับมาเล่นฟุตบอล ได้อย่างมั่นใจและมีความสุขกับมันอีกครั้ง ตอนนี้เฟร็ดแทบจะเรียกได้ว่าขาดไปจากแผงมิดฟิลด์ไม่ได้เลยทีเดียว การไล่บอลตัดเกมที่ไม่มีหมดของเขา ช่วยให้เกมรับแน่นขึ้น การจ่ายบอลเขาก็ช่วยเปลี่ยนจังหวะจากรุกเป็นรับได้ดี ทั้งบอลสั้นบอลยาว  แถมยังมีลูกตั้งเตะและยิงไกลอีกด้วย ตอนนี้พูดได้เลยว่า การมีเฟร็ดกับแม็คทอมมิเนย์คุมแดนกลางให้กับทีม มันอุ่นใจขึ้นเยอะ ทั้งเพื่อนร่วมทีม และแฟน ๆ ที่เชียร์อยู่ข้างสนาม

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เฟร็ดกลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมนั้น นอกจากการสนับสนุนของเพื่อนร่วมทีม และผู้จัดการทีมอย่างโซลชาร์แล้ว สิ่งหนึ่งคือตัวของเขาเอง ถึงแม้ว่าเฟร็ดจะโดนด่าจากผู้คนรอบด้าน แต่เขาไม่เคยท้อถอยต่อคำสบประมาทด่าทอเหล่านั้น ตรงกันข้ามเฟร็ดกับชอบอ่านคอมเมนท์ด่าของคนเหล่านั้น และมันทำให้เขารู้ว่าตัวเขาเองมีจุดบกพร่องตรงไหน และจะปรับปรุงและพัฒนาการเล่นของตัวเองยังไง เมื่อมันบวกกับความมุ่งมั่น และทักษะฟุตบอลที่เขามีแล้ว มันจึงไม่แปลกเลยที่ตอนนี้ ผู้คนเหล่านั้น หันกลับมาชื่นชมเขาแทน

จากคำดูถูก คำสบประมาทในวันนั้น เฟร็ดกลับใช้มันเป็นแรงขับเคลื่อน ให้เขากลับมาสู่ฟอร์มสุดยอดได้อีกครั้ง จนตอนนี้เฟร็ดคือผู้เล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับแผงกองกลางผีแดง และตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ชื่อของเขาคือ “เฟรเดริโก้ โรดริเกซ เดอ ปอล่า ซานโตส” และชื่อยาวขนาดนี้การันตีได้เลยว่า กองกลางคนนี้เมดอินบราซิลอย่างแน่นอน หาใช่ของก็อปจากเซินเจิ้นอย่างที่เคยเข้าใจผิดกัน

เครดิตภาพ : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1679236

Tagged , ,